อาชีวะพ่นพิษ"นริศรา"เช็คบิล"ธีรพัฒน์"แฉทำเอกสารลาราชการปลอม บี้ สอศ.ฟันวินัย
แฉจนงานเข้า!! “ธีรพัฒน์” อุปนายกสมาคมครูอาชีวะ เจอคุรุสภาสอบพบปลอมเอกสารลาราชการเพียบ “นริศรา” ได้ทีสั่งแจงข้อมูลยิบ จี้ สอศ.ฟันวินัย โยนใช้วิจารณาญาณเชื่อคนเช่นนี้ได้หรือไม่ ขณะที่อดีตเลขาฯ ร้อนแทนปัดนายสั่งเช็คบิล อ้างทำตามเรื่องร้องเรียน วันนี้(22 ม.ค.) นายณรงค์ฤทธิ์ มะลิวัลย์ รองเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคุรุสภา เรื่องให้ตรวจสอบพร้อมจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการปลอมเอกกสารราชการ ที่มีลายเซ็นนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา ของนายธีรพัฒน์ คำคูบอน อาจารย์วิทยาลัยการอาชีพบางปะกง ในฐานะประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และอุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ในการมาประชุม ซึ่งในฐานะที่รับผิดชอบสำนักอำนวยการ ทางสำนักงานคุรุสภา ก็ได้รับหนังสือจาก วิทยาลัยอาชีวเสาวภา ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.52 เพื่อให้ตรวจสอบเอกสารที่มีทั้งหมด 8 เรื่องว่าเป็นเอกสารจริงและออกจากสำนักงานคุรุสภาหรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานคุรุสภาได้ตรวจสอบตามที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา ส่งมาให้และตอบกลับไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.52 แล้วโดยพบว่า หนังสือให้ตรวจสอบทั้งหมดนั้นเป็นหนังสือที่ไม่ได้ออกจากสำนักงานคุรุสภา และผู้ลงนามซึ่งเป็นเลขาธิการคุรุสภา ก็ไม่ใช่ลายเซ็นของเลขาฯ คุรุสภา น.ส. นริศรา กล่าวว่า เนื่องจากมีการขอข้อมูลความจริงว่ามีข้าราชการครูขาดราชการจำนวน 82 วัน โดยมีการอ้างอิงจากคุรุสภาว่า ไปทำหน้าที่ปฏิบัติราชการ เรื่องนี้ตนได้ทำหนังสือออกไป 4 ส่วนเพื่อหาความจริงว่านายธีรพัฒน์ คำคูบอน เป็นบุคคลที่ทำหนังสือราชการเป็นเท็จจริงหรือไม่ โดยส่งหนังสือตรวจสอบไปที่คุรุสภา ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวเสาวภา ต้นสังกัดในขณะนั้น ซึ่งได้มีการสอบสวนเกิดขึ้นแล้ว อีกทั้ง วิทยาลัยการอาชีพบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นต้นสังกัดปัจจุบัน ก็มีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่ามีการขอตัวจากคุรุสภา ในตลอดเวลา 6 เดือนที่นายธีรพัฒน์ย้ายไปกว่า 67 ฉบับ ซึ่งทางวิทยาลัยการอาชีพบางปะกง ก็จะทำหนังสือให้คุรุสภาตรวจสอบอีกครั้ง ว่าจะเอกสารเท็จเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดได้มีการสอบสวนขั้นต้นแล้วตั้งแต่ในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) สมัยนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เป็นเลขาธิการ ซึ่งได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการโดยพบมูลความผิดว่านายธีรพัฒน์ ขาดราชการ 82 วัน และแสดงเอกสารราชการปลอมต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อขออนุญาติไปราชการซึ่งถือว่ามีความผิดทางวินัย “การดำเนินการทางวินัยก็อยู่ที่ทางอาชีวะว่าจะดำเนินการอย่างไรซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาฯ กอศ.คนปัจจุบัน แล้วในส่วนของผลสรุปการดำเนินการแต่ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้ให้เวลา 7 วันในการส่งหนังสือกลับมา เพราะทราบมาว่าผลสอบของอาชีวะได้ข้อสรุปเสร็จตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย ซึ่งที่ผ่านมานายธีรพัฒน์ อยู่ที่วิทยาลัยอาชีวเสาวภาตั้งแต่ พ.ค.50 ถึง มี.ค.52 หรือกว่า 2 ปี ก็ได้ลาราชการไปแล้ว 374 วัน” รมช.ศธ. กล่าว เมื่อถามว่ามองว่าข้อมูลต่างๆ ที่นายธีรพัฒน์ ออกมาเปิดเผยน่าเชื่อถือได้หรือไม่นั้น น.ส.นริศรา กล่าวว่า แล้วแต่จะพิจารณา เพราะทำอะไรก็ตั้องมีหลักฐานชัดเจน ถ้ามีข้อมูลมาให้ก็ยินดี แต่กลับให้ข้อมูลผ่านสื่อ ออกมาพูดเอง ก็ต้องตรวจสอบว่าน่าเชื่อถือแค่ไหนกับพฤติกรรมที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน อย่างไรก็ตามขอทวงถามไปยังผู้บังคับบัญชาว่ากรณีที่ผลสอบมีมูล มีผลสรุป จะทำอย่างไรต่อไป ต้องดำเนินการทางวินัยโดยไม่มีการละเว้นหรือไม่ เมื่อถามว่าอาจมองได้ว่าการออกมาในเรื่องนี้เป็นการสั่งเช็คบิลของรัฐมนตรีหรือไม่นั้น น.ส.นริศรา กล่าวว่า คิดอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ น.ส.นริศราตอบคำถามอยู่นั้น นพ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี ได้ขอตอบคำถามแทนว่า เมื่อเข้ามาทำงานเป็นเลขาฯ ประมาณ 1 เดือน ก็ได้รับหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับนายธีรพัฒน์ จำนวนมาก อาทิ การไปทำหน้าที่ส.ส.ครู มีการวิ่งเต้นโยกย้ายครู การรับเงินค่าสอนล่วงเวลาแต่ไม่ทำการสอน เป็นต้น ซึ่งหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ตนได้ทำบันทึกถึงเลขาฯ กอศ. ทราบเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ดังนั้นเรื่องทั้งหมดจึงไม่เกี่ยวกับ น.ส.นริศรา เลย แต่เป็นการดำเนินการตรวจสอบตามหนังสือร้องเรียนเท่านั้น น.ส.นริศรา กล่าวด้วยว่า สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งขึ้นมาใหม่ อีก 2 ชุด นั้นจะสามารถดำเนินการได้ในวันจันทร์(25 ม.ค.) นี้ โดยในส่วนของตัวแทนจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ก็ได้แจ้งชื่อมาแล้ว 2 คน จากนั้นจะเริ่มสอบ และจะรีบสรุปให้สำนักงบประมาณ เพื่อการขยายเวลายื่นครุภัณฑ์อาชีวะ และให้รมว.ศธ. ทำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขยายเวลาออกไป ทั้งนี้อยู่ที่ความร่วมมือของอาชีวะด้วย ด้านนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า กำลังปรึกษานักกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่ตนยังไม่ฟ้องในทันทีเพราะต้องการให้ความเป็นธรรม เนื่องจากยังไม่รู้แน่ชัดว่าคนปลอมลายเซ็นเป็นนายธีรพัฒน์หรือไม่ อาจเป็นคนอื่นที่ทำขึ้นเพื่อหวังผลให้ตนกับนายธีรพัฒน์ทะเลาะกัน จึงต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อน อนึ่ง นายธีรพัฒน์ ได้ออกมาเปิดโปงว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ของ สอศ.ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งมีความไม่ชอบมาพากล โดยมีรายการครุภัณฑ์ที่ทางวิทยาลัยบางแห่งไม่ต้องการแต่ได้รับการจัดสรรให้ และครุภัณฑ์บางรายการมีราคาแพงเกินจริง จน น.ส.นริศรามีคำสั่งระงับการการจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการดังกล่าว และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้สรุปว่ามีแนวโน้มว่าจะมีการฮั้วประมูลหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนจริง อีกทั้ง กรรมาธิการการศึกษาฯ วุฒิสภา ได้ให้ความสนใจต่อเรื่องนี้ และเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการเปิดเผยข้อมูลการกระทำผิดของนายธีรพัฒน์อาจเกี่ยวข้องกับการออกมาแฉเรื่องครุภัณฑ์ SP2
"ธีรพัฒน์"สวนไม่เคยปลอมหนังสือราชการ แขวะนริศรากินปูนร้อนท้อง
“ธีรพัฒน์” สวนทันควันยันไม่เคยปลอมหนังสือราชการ ย้อนเรื่องเกิดตั้งนานทำไมเพิ่งขุดมาเล่นงานตอนแฉ SP2 อาชีวะ เผยคุรุสภาไม่เคยส่งเรื่องให้ทราบ เพื่อแจงข้อกล่าวหา แขวะ “นริศรา” กินปูนร้อนท้อง ขู่ฟ้องกลับฐานทำให้เสียชื่อ วันนี้(22 ม.ค.) นายธีรพัฒน์ คำคูบอน อาจารย์วิทยาลัยการอาชีพบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ในฐานะประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และอุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคุรุสภา ออกมาระบุว่ามีการปลอมหนังสือราชการ พร้อมทั้งปลอมลายเซ็นเลขาธิการคุรุสภาเพื่อใช้ในการลาราชการ ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมากกว่า 2 ปีแล้ว และยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่าเป็นฝีมือใคร เพราะที่ผ่านมามีแต่การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการดำเนินการทางวินัยใดๆ ทั้งสิ้น จึงอยากถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งนานแต่ทำไมเพิ่งมาขุดคุ้ยในช่วงที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูลถึงปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ งบ SP2 ของอาชีวะ ซึ่งดูเหมือนว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศธ. จะกินปูนร้อนท้องไปเองหรือไม่ที่สั่งให้เร่งดำเนินการเอาผิดตน เพราะถึงอย่างไรการที่ตนออกมาต่อสู้เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของอาชีวะ ก็ยังไม่ได้ไปกล่าวหาใคร หรือแม้แต่เอ่ยชื่อ เพียงแต่ให้ข้อมูลเรื่องความผิดปกติของสเปกครุภัณฑเท่านั้น “ถ้าผมปลอมเอกสาร และปลอมลายเซ็นจริงก็ต้องแปลว่าที่ผ่านมาต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะการปลอมลายเซ็นถือเป็นความผิดทางอาญา ผู้เสียหายสามารถแจ้งความเอาผิดได้ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย นอกจากนี้คุรุสภาเองทำไมไม่รายงานให้ผมทราบ ผมเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการรายงานให้ทราบ เพื่อที่ผมจะได้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ตอนนี้พูดอยู่ข้างเดียวว่าผมปลอม มีการพิสูจน์หรือยังว่าผมเป็นคนทำจริงๆ” นายธีรพัฒน์ กล่าว นายธีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำ และไม่รู้เห็นด้วยว่าเรื่องดังกล่าวมาจากไหน ใครทำ ทั้งนี้ตนจะดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ซึ่งทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะเรื่องราวต่างๆ ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นเพียงข้อกล่าวหาเท่านั้น อีกทั้งถือเป็นเรื่องภายในที่ผู้บังคับบัญชาโดยตรงต้องดำเนินการ แต่วันนี้กลับมีการนำมาเปิดเผย เปิดห้องแถลงข่าวกันไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร
28 มกราคม 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)